วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประวัติส่วนตัว

ประวัติส่วนตัว
ชื่อ  นางสาว สิรินาฏ           นามสกุล   สมัยพิทักษ์
ชื่อเล่น   ดรีม           ห้อง BC 1           เกรดเฉลี่ย  2.26
วัน/เดือน/ปีเกิด   5  เมษายน  2532          อายุ  2ๅ   ปี          สีที่ชอบ    ฟ้า
น้ำหนัก                  49  กก.             ส่วนสูง                163   ซม.           
กรุ๊ปเลือด    AB     โรคประจำตัว  –
กำลังศึกษาอยู่ที่  มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต            คณะ  วิทยาการจัดการ
หลักสูตร  บริหารธุรกิจบัณฑิต  สาขาวิชา  คอมพิวเตอร์ธุรกิจ  ชั้นปีที่  3
ภูมิลำเนา    34/6  ม.14  ต.หนองกบ  อ.บ้านโป่ง  จ.ราชบุรี 70110
ที่อยู่ปัจจุบัน    34/6  ม.14  ต.หนองกบ  อ.บ้านโป่ง  จ.ราชบุรี 70110
เบอร์โทร    081-5874248
เพื่อนสนิท  (ที่ติดต่อได้)    นางสาวพจนารถ  นาคโขนง          เบอร์โทร  081-1412407
งานอดิเรก     ฟังเพลง     ดูหนัง    อ่านหนังสือ
คติประจำใจ    การกระทำดีกว่าคำพูดที่สวยหรู

บุคลิกภาพสไตล์ BIZCOM

        บุคลิกภาพเป็นเรื่องของภาพรวมที่ตัวเราแสดงออกไป ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว โดยมีคนอื่นมองอยู่หรือรู้สึกกับสิ่งที่เราแสดงออก ดังนั้น จึงต้องมีการระมัดระวังและตกแต่งเสริมเติมให้บุคลิกภาพของเรายิ่งน่ามอง และเป็นที่ประทับใจของคนรอบตัว
1. การมอง

         สายตาสามารถบอกถึงความรัก ความเกลียดชัง ความเมตตาปรานี ความโกรธแค้น ความเคารพนับถือ หรือความเหยียดหยาม ดูหมิ่นดูแคลนได้ ฉะนั้น เมื่อเราจะมองใคร เราจะต้องพยายามใช้สายตาด้วยความสุภาพเรียบร้อย ระวังในการใช้สายตาอย่าให้คนอื่นเกิดความเข้าใจผิดหรือรู้สึกติดลบได้

2. การแต่งกาย

         การแต่งกายบ่งบอกความพิถีพิถันและเอาใจใส่ตัวเอง ช่วยทำให้คนคนหนึ่งดูดีหรือดูแย่ได้ ทุกครั้งที่เลือกเครื่องแต่งกายหรือกำลังจะแต่งกาย ให้ต้องคำนึงถึงความสะอาดเรียบร้อย ถูกต้องและเหมาะสมกับกาลเทศะ แต่งกายให้พอดี อย่าให้มากเกินไปหรือน้อยเกินไปจนกลายเป็นน่าเกลียด

3. การพูด

         ต้องมีศิลปะในการพูด พูดให้ชนะใจผู้ฟัง โดยจะต้องใช้คำพูดที่มีเหตุผล สุภาพ ไพเราะ มีน้ำเสียงชวนฟัง เสียงดังฟังชัด ฉะฉาน และใช้คำพูดที่เหมาะสมกับผู้ฟัง โดยคำนึงถึงวัย เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ และความสนใจพิเศษของผู้ฟัง  ทั้งยังต้องคำนึงถึงสถานที่ เวลา และโอกาสด้วย

4. การเดิน

         ให้เดินตัวตรง อกผายไหล่ผึ่งเพื่อให้ดูสง่า แต่ไม่ต้องถึงกับหลังตรงตัวแข็งเหมือนนักเรียนนายร้อย เดินให้มีท่าทางสง่าและเรียบร้อย เวลาเดินให้ก้าวเท้ายาวพอประมาณ และสอดคล้องกับเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่สวมใส่ ว่าก้าแค่ไหนจึงดูคล่องแคล่วและปลอดภัย  ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดังจนเกินไป เพราะเสียงฝีเท้าจะไปรบกวนผู้อื่น ไม่เดินผ่ากลางผู้อื่นที่ยืนสนทนากันอยู่

5. การแสดงท่าทาง

         ต้องระวังท่าทางที่ไม่สวยงาม เวลาพูดหรือทำอะไรก็ตาม อย่ามีการแสดงท่าประกอบมากเกินไปจนน่าเกลียด หรือแสดงท่าที่ไม่สุภาพ ท่าทางที่ดีจะต้องมาจากพื้นฐานของความสงบ สำรวม ให้เกียรติทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ควรมีท่าทางประกอบเพื่อให้ดูผ่อนคลาย เป็นธรรมชาติ สง่า และเสริมในสิ่งที่พูดหรือเล่า นอกเหนือจากนั้นอาจไม่จำเป็นต้องมีท่าทางประกอบแต่อย่างใด

6. ทักษะในการทำงาน

         ในการทำงานใดๆ ก็ตามจะต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ต้องทำด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ด้วยความชำนาญ และให้ได้ผลงานดีเด่น ทำด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ อย่าให้น้อยไปกว่าความสามารถที่เรามีหรือทำได้ ความน่าชื่นใจของผู้ร่วมงานหรือหัวหน้างานทุกคนก็คือ การมีเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องที่ทำงาน "เต็มความสามารถ" อยู่ตลอดเวลา นั่นคือบุคลิกแห่งความสำเร็จด้วยค่ะ

7. สุขภาพ

         ต้องระวังสุขภาพให้ดี อย่าให้มีโรค ระวังรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ผู้ที่ป่วยออดๆ แอดๆ จะดูเป็นคนขี้โรค ซึ่งน่าเป็นห่วงมากกว่าน่าชื่นชม ดูอ่อนแอ ไม่คล่องแคล่ว โรคบางรคส่งผลถึงความซีดเซียว ห่อเหี่ยว หม่นหมอง จึงขาดสง่าราศี การดูแลสุขภาพให้ดีคือต้นทุนของการพัฒนาบุคลิกภาพที่สำคัญที่สุด

         สุขภาพนั้น ยังหมายรวมถึงรูปร่างและทรวดทรงด้วย อยากแต่งกายได้สวย หล่อ มีสง่า สะดุดตา ก็ต้องมีรูปร่างที่ดีเป็นพื้นฐานอยู่ก่อน เสื้อผ้าที่มีรสนิยม เข้ากับสีผิว กาลเทศะ และฐานภาพของผู้สวมใส่ จะยิ่งขับเน้นให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นบุคลิกภาพที่ดีสร้างเสริมกันได้ค่ะ ไม่มีใครดูดีมาแต่อ้อนแต่ออก มาพัฒนากันทีละเล็กทีละน้อยในภายหลังทั้งนั้น แต่ต้องทำอย่างเป็นธรรมชาติ นั่นแหละค่ะ คือความดูดีที่แท้จริง


วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ

ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ
   จากการที่ได้เรียนวิชาเตรียมฝึกวิชาชีพบริหารธุรกิจ 3 นี้ ทำให้ดิฉันได้รู้จักการเรียนรู้หลายๆสิ่ง เช่น การอยู่ร่วมสังคมกับผู้อื่น  การมีความรับผิดชอบในการทำงานและฝึกตนเองให้เป็นคนที่ตรงต่อเวลา มีความรู้ใหม่ๆ ดังต่อไปนี้


การบรรยายครั้งที่1 การปฐมนิเทศรับขวัญสู่บ้านใหญ่


วันที่ 13 มิถุนายน  พ.ศ. 2553
บรรยายโดย  อาจารย์ สาระ มีผลกิจ
บรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และสื่งที่เราพึงกระทำต่อสถานศึกษาแห่งนี้  โดยมี่สิ่งที่เราได้รับจากการฟังบรรยายดังนี้

   - ประวัติและความเป็นมาของมหาวิทยาลัยในอดีต ที่มีเรื่องราวมากมายที่เราควรรู้
   - การประพฤติตนเองให้เหมาะสมในสถานที่ศึกษา
   - ทราบกำหนดการส่งงานของวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
การบรรยายครั้งที่ 2 การพัฒนาบุคลิกภาพ คุณธรรมจริยธรรมและธนาคารความดี
วันที่ 14 กรกฎาคม 2553
บรรยายโดยอาจารย์ ผศ.โรจนา ศุขพันธ์
     เป็นการบรรยายเกี่ยวบุคลิกภาพที่ดี ที่นักศึกษาควรกระทำ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและตระหนักถึงการแต่งกายให้เหมาะสม

  -  การแต่งกายให้ถูกต้องตามกฏระเบียบของมหาวิทยาลัย
  -  การวางตัวให้เหมาะสมกับสถานที่ต่างๆ
  -  การพูดจาที่สุภาพบ่งบอกถึงความเป็นตัวของตัวเอง



การบรรยายครั้งที่ 3  กิจกรรมการเงินส่วนบุคคล
วันที่ 28 กรกฎาคม 2553
บรรยายโดย คุณเกษม  ภูติจินดานันท์
     บรรยายเกี่ยวกับการออมเงินในอนาคต  การวางแผนการเงินสู่อนาคต  การบริหารการจัดการใช้เงินในชีวิตประจำวันอย่างไรให้คุ้มค่าและมี่ประโยชน์

  -  รู้จักการวางแผนในการใช้เงินที่ดี
  -  วิธีการออมเงินอย่างถูกวิธี
  -  การใช้เงินให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่า



การบรรยายครั้งที่ 4  ทักษะการสื่อสารภาษาไทยในชีวิตประจำวัน
วันที่ 25สิงหาคม 2553
บรรยายโดย อาจารย์  ปรีชา ร่วงลือ
      ภาษาไทยเป็นภาษาที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นชาติไทย  ไม่ว่าจะเป็น พยัญชนะ อักษรเสียงสูง
 เสียงต่ำ  ภาษาเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ในการสื่อสาร

 - ทำให้รู้วิธีในการออกเสียงสระที่ถูกต้อง
 - หลักในการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง
 - ได้รับกิจกรรมในการคัดไทย



การบรรยายครั้งที่ 5  เตรียมความพร้อมเพื่อการฝึกงานอย่างมืออาชีพ
วันที่ 1 กันยายน 2553
บรรยายโดย  หลวงปู่พุทธอิสระ และคุณมนัส  ตั้งสุข

     เป็นการบรรยายเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินชีวิต และการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง การยืนด้วยตนเองโดยไม่พึ่งผู้อื่น โดยนำหลักธรรมที่ได้จากการฟังธรรมครั้งนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์

  -  การรู้จักกตัญูญูต่อผู้ที่มีพระคุณ
  -  รู้จักแนวคิดในการแก้ปัญหา
 -   การจะทำการใดให้สำเร็จจะต้องมีความมานะ อดทน ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น